จอติดรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนเครื่องเสียงรถยนต์แบบเดิมๆ ให้กลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัยมากขึ้น เหมือนมีแท็บเล็ตอยู่ในรถ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าจอติดรถยนต์ในปัจจุบันนี้มีกี่ประเภท แล้ววิธีการเลือกจอติดรถยนต์ต้องเลือกแบบไหนถึงจะได้จอติดรถยนต์ที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานที่สุด วันนี้ Jack Auto Car เอาเรื่องเกี่ยวกับจอติดรถยนต์มาบอกกัน!
จอติดรถยนต์มีกี่แบบ
ก่อนที่จะเลือกหน้าจอติดรถยนต์กัน ต้องรู้ก่อนว่าจอติดรถยนต์มีกี่แบบแล้วแต่ละแบบมีลักษณะอย่างไร แม้ว่าในท้องตลาดจะได้ยินแต่ชื่อ “จอแอนดรอย” แต่ก็ยังมีจอติดรถยนต์แบบอื่นอีก แบ่งตามประเภทระบบการทำงานได้คือ
จอ Android
เป็นจอที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ ได้เหมือนสมาร์ตโฟน ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น ดูแผนที่จาก Google Maps, ฟังเพลงจาก Spotify, ดูวิดีโอ YouTube และอื่นๆ ใช้งานด้วยระบบสัมผัสทำให้ใช้งานง่าย มีขนาดตั้งแต่ 7-10 นิ้วขึ้นไป เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือบางรุ่นสามารถใส่ซิมการ์ดได้ มีระบบ Bluetooth ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น รองรับการเชื่อมต่อกับกล้องหลัง กล้อง 360 องศา มีความละเอียดหน้าจอสูง มีหลายแบรนด์ให้เลือก ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่น
จอ Apple CarPlay/Android Auto
เป็นจอที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android ทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชันบางอย่างของโทรศัพท์ผ่านจอรถยนต์ได้ เช่น การโทร, การส่งข้อความ, การฟังเพลง, และการนำทาง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อโทรศัพท์ของคุณเข้ากับจอรถยนต์ผ่านสาย USB หรือแบบไร้สายขึ้นอยู่กับรุ่นของจอเมื่อเชื่อมต่อแล้วหน้าจอรถยนต์จะแสดงผลแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานในรถยนต์ ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตในรถเพราะจะใช้สัญญาณจากโทรศัพท์เอง
จอ Mirror Link
จอ Mirror Link เป็นอีกหนึ่งระบบที่จำลองหน้าจอสมาร์ตโฟนของคุณทั้งหมดไปแสดงบนหน้าจอรถยนต์แบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถควบคุมและใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่อยู่ในมือถือของคุณได้จากหน้าจอรถยนต์โดยตรง เช่น ดูแผนที่ ดู Youtube เล่นแอปพลิเคชันอื่นๆ ในสมาร์ตโฟน หน้าจอรถยนต์จะแสดงผลทุกอย่างเหมือนกับหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ แตกต่างจาก Apple CarPlay/Android Auto ที่จะแสดงเฉพาะแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานในรถเท่านั้น ข้อดีที่เด่นชัดของจอ Mirror Link คือ เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทุกแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน แต่ไม่ปลอดภัยเท่ากับหน้าจอระบบอื่น และยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่าด้วย
จอ OEM
จอที่ถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งในรถยนต์แต่ละรุ่นโดยเฉพาะ ทำให้มีหน้ากากและปลั๊กที่เข้ากับรถได้อย่างลงตัว ไม่ต้องดัดแปลงใดๆ ซึ่งทำให้หลายคนมักสับสนกับจอตรงรุ่น บางครั้งผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ได้ผลิตจอเอง แต่ไปจ้างโรงงานอื่นผลิตจอตามสเปกที่กำหนด แล้วนำมาติดตั้งในรถยนต์ที่จำหน่าย ซึ่งจอนี้ถือเป็นจอ OEM ของรถยนต์รุ่นนั้นๆ หรือเป็นจอที่โรงงานผลิตขึ้นมาตามดีไซน์ของรถรุ่นต่างๆ และจำหน่ายให้กับร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ทั่วไป ซึ่งสามารถนำไปติดแบรนด์ของตัวเองได้ จอ OEM ที่มีสเปกสูง เช่น RAM 4GB ขึ้นไปจะมีราคาที่สูงกว่าและใช้งานได้ลื่นไหลกว่า
จอติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ
ปัจจุบัน “จอแอนดรอยด์” เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย สามารถทำได้เกือบทุกอย่างเหมือนแท็บเล็ตในรถยนต์ โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนี้ เช่น Alpha Coustic, Nakamichi, Platinum-X, Worldtech, Blaupunkt, Alpine, Sony, Pioneer, Kenwood เป็นต้น ปัจจัยที่ทำให้จอแอนดรอยเป็นจอติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเพราะมีฟังก์ชันครบครัน มีความเสถียรในการใช้งาน มีราคาที่สามารถเข้าถึงได้
วิธีการเลือกจอติดรถยนต์ให้เหมาะกับรถ
วิธีการเลือกจอติดรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถและตอบโจทย์การใช้งานนั้นมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา โดยวิธีการเลือกจอติดรถยนต์สรุปเป็น 4 ข้อใหญ่ๆ ให้ลองเอาไปเป็นแนวทางดู ดังนี้
ราคาและงบประมาณเหมาะสม
นี่คือปัจจัยสำคัญสำหรับหลายๆ คน เพราะอยากติดจอในรถยนต์ก็ต้องดูงบประมาณที่ถืออยู่ด้วย ราคาจะเป็นตัวกำหนดได้ว่าสามารถซื้อจอรูปแบบไหน ก่อนติดตั้งลองหาข้อมูลราคาหลายๆ แบรนด์ดูก่อน หากมีการกำหนดช่วงราคาที่ต้องการจะทำให้จำกัดตัวเลือกให้แคบลง แล้วค่อยเลือกสเปกที่เหมาะสมกับการใช้งานต่อไป
เลือกสเปกที่เหมาะกับการใช้งาน
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเลือกสเปกหน้าจอติดรถยนต์คือ RAM และ ROM ซึ่ง RAM คือ หน่วยความจำหลักที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพเรื่องความเร็วในการทำงาน และ ROM คือ หน่วยความจำที่ใช้สำหรับอ่านข้อมูล พูดง่าย ๆ ก็คือพื้นที่ในการรองรับข้อมูล การใช้งานคือ RAM 2GB, ROM 32 GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หากอยากได้ความไหลลื่นในการใช้งานมากขึ้นเพิ่มเป็น RAM 4 GB ขึ้นไป, ROM 64 GB ขึ้นไปจะเหมาะสม ซึ่งร้านรับติดตั้งจอมักจะแนะนำสเปกนี้
เช็กขนาดหน้ารถยนต์เลือกจอที่มีขนาดพอดี
จอติดรถยนต์มีให้เลือกได้ตั้งแต่ 7-10 นิ้ว โดยที่ขนาดจอที่เหมาะสมกับพื้นที่ในคอนโซลรถส่วนใหญ่มักจะเป็น 9 หรือ 10 นิ้ว และไม่บังทัศนวิสัยในการขับขี่ จอที่มีขนาดใหญ่ก็จะเห็นภาพที่แสดงออกมาชัดเจน แต่ถ้าหากต้องการพื้นที่บริเวณคอนโซลรถก็สามารถเลือกเป็นจอที่ขนาดเล็กลงมาได้
เลือกแบรนด์จอที่น่าเชื่อถือ เลือกร้านที่เชื่อถือได้
ควรเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาด เช่น Alpha Coustic, Pioneer, Kenwood, JVC, Nakamichi และเลือกร้านที่น่าเชื่อถือในการติดตั้ง เพราะการติดตั้งเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเลือกร้านที่มีประสบการณ์ ช่างมีความชำนาญ เพื่อให้การติดตั้งเรียบร้อยและไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง รวมทั้งควรสอบถามเรื่องการรับประกันของตัวจอและงานติดตั้งให้ชัดเจนด้วย
จอแอนดรอยตรงรุ่นที่ Jack Auto Car
อยากติดตั้งจอติดรถยนต์แบบไหน Jack Auto Car มีให้เลือกครบ! จอแอนดรอยตรงรุ่นราคาเริ่มต้น 4,500 บาท มีมากกว่า 200 รุ่นให้เลือก ขนาดจอมีตั้งแต่ 9.1-13.3 นิ้ว RAM และ ROM ตั้งแต่ 32 GB-256 GB มีระบบ HDMI ลิงค์จอหลังได้ รับประกัน 1 ปี! พร้อมบริการการให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ด้วยทีมช่างจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งรถโดยเฉพาะ ไม่เพียงแต่บริการด้านจอติดรถยนต์เท่านั้น Jack Auto Car ยังมีบริการแต่งรถและอุปกรณ์เสริมยานยนต์อีกเพียบ!
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของหน้าจอติดรถยนต์ที่ Jack Auto Car เอามาฝากกัน! ได้รู้กันแล้วว่าจอติดรถยนต์มีกี่แบบ แต่ละแบบเป็นยังไง ลองศึกษาข้อมูลแล้วเลือกจอแบบที่ใช่ หาฟังก์ชันแบบที่ชอบกันได้เลย แต่หากยังไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหน ทักมาสอบถามกันได้ที่ Jack Auto Car เรายินดีให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนเกี่ยวกับจอติดรถยนต์และอุปกรณ์ยานยนต์ครบวงจร ส่งฟรีทั่วไทยมาพร้อมการรับประกัน 1 ปีเต็ม!
FAQ
จอติดรถยนต์ทำอะไรได้บ้าง
- ดูหนัง ฟังเพลง บอกทาง ติดกล้องหลังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อรับสายสนทนาได้ อยู่ที่รุ่นจอติดรถยนต์และฟังก์ชันที่เลือก
วัดขนาดเพื่อติดตั้งจอติดรถยนต์ทำอย่างไร
- สำหรับจอที่ไม่ตรงรุ่นต้องถอดหน้ากากวิทยุเดิมออก แล้วทำการวัดขนาดช่องวิทยุด้วยตลับเมตร ขั้นตอนเหล่านี้ให้ทางร้านจัดการให้จะสะดวกปลอดภัยมากกว่า ส่วนจอที่ตรงรุ่นนั้นคือการตรวจสอบรุ่นรถและปี ส่วนใหญ่ร้านที่ติดตั้งจะมีข้อมูลอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องวัดเอง
จอติดรถยนต์ราคาเท่าไหร่
- สำหรับราคาของจอติดรถยนต์นั้นแบ่งเป็นราคาจอเปล่าและจอรวมค่าติดตั้ง โดยที่ราคาถูกสุดจะเป็นจอติดรถยนต์ที่ไม่ตรงรุ่น มีสเปกพื้นฐาน รองรับฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ฟังเพลง ดู Youtube และเชื่อมต่อกล้องหลังราคาจอเปล่าเริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาท รวมค่าติดตั้งอยู่ที่ 4,500-9,000 บาท
- ราคาจอติดรถยนต์ที่มีสเปกสูงขึ้นมาถ้าเป็นจอเปล่าราคาเริ่มต้นที่ 3,000-8,000 บาท รวมค่าติดตั้งเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ราคานี้เป็นเพียงราคาโดยประมาณเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องสอบถามกับร้านที่ทำการติดตั้งอีกครั้ง
ใช้เวลาติดตั้งจอติดรถยนต์นานไหม
- ติดตั้งจอแอนดรอยด์แบบตรงรุ่นโดยทั่วไปไม่มีอุปกรณ์เสริม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1.5 ชั่วโมง
- ติดตั้งจอแอนดรอยด์แบบตรงรุ่นอุปกรณ์เสริม เช่น กล้องมองหลัง ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2.5 ชั่วโมง
- ติดตั้งจอแอนดรอยด์แบบ Universal หรือไม่ตรงรุ่น จะมีการเดินระบบสายไฟใหม่ใช้เวลาประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน
Ref.