เลือกฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ยังไงให้คุ้มค่า
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าอากาศในเมืองไทยนั้นร้อนแรงขนาดไหน การที่มีฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยทั้งลดความร้อนและเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าฟิล์มเซรามิกแตกต่างจากฟิล์มทั่วไปยังไง และคุ้มค่าจริงหรือไม่ บทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักว่าควรเลือกฟิล์มเซรามิกยังไง ให้เหมาะกับรถของคุณ

ฟิล์มเซรามิก คืออะไร?
ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film) คือฟิล์มกรองแสงที่พัฒนามาจากฟิล์มทั่วไป แต่มีการนำอนุภาคนาโนเซรามิกมาเคลือบลงบนชั้นฟิล์ม ทำให้ได้คุณสมบัติเด่นกว่าฟิล์มรุ่นเก่า เช่น ลดความร้อนจากแสงแดดได้สูง, กันรังสี UV ได้เกือบ 100%, ไม่สะท้อนแสงมากเกินไป, ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS, Easy Pass, Wi-Fi, หรือสัญญาณมือถือและจุดแข็งที่คนชื่นชอบฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์นั่นก็คือ มีความมืดนอกสว่างใน หมายถึง เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นทึบและเป็นส่วนตัว แต่จากด้านในยังคงมองเห็นถนนได้ชัดเจน
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์มีกี่แบบ?
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์มีกี่แบบ? ในปัจจุบันสามารถแบ่งประเภทของฟิล์มติดรถยนต์ได้ตามระดับความเข้มของสีฟิล์มและคุณสมบัติอื่นๆ ควบคู่ ดังนี้
ฟิล์มเซรามิกกันร้อนมาตรฐาน
ฟิล์มเซรามิกกันร้อนมาตรฐานเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการประสิทธิภาพการกันความร้อนที่ดีในราคาย่อมเยา จุดเด่นคือช่วยลดความร้อนจากแสงแดด ลดแสงจ้าที่รบกวนสายตา และกรองรังสี UV ได้สูง เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน ต้องการฟิล์มที่ดูแลสุขภาพผิวและดวงตา แต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินไป
ฟิล์มเซรามิกเกรดพรีเมียม
ฟิล์มเซรามิกเกรดพรีเมียมมักใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเคลือบอนุภาคนาโนเซรามิก ทำให้ได้ความใสและทัศนวิสัยที่ดีกว่า สามารถลดความร้อนและรังสีอินฟราเรดได้อย่างดีเยี่ยม จึงเหมาะกับผู้ที่ขับรถทางไกลบ่อย ๆ หรือคนที่ต้องการความสบายสูงสุดในห้องโดยสาร อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าฟิล์มเกรดมาตรฐาน
ฟิล์มเซรามิกความเข้มสูง
ฟิล์มเซรามิกความเข้มสูงโดดเด่นด้วยคุณสมบัติ “มืดนอก สว่างใน” อย่างแท้จริง ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากกว่าฟิล์มประเภทอื่น คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ง่าย และไม่ทำให้ทัศนวิสัยข้างในมืดจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยหรือมีทรัพย์สินในรถ อีกทั้งยังช่วยลดความร้อนในห้องโดยสารได้เร็ว ดังนั้น การเลือกฟิล์มเซรามิกยังไง ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ หากต้องการเน้นกันร้อนมาก ๆ และมองเห็นชัดเจนเวลากลางคืน ควรเลือกเกรดพรีเมียม แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว อาจเลือกแบบความเข้มสูง
ฟิล์มเซรามิกราคาเท่าไหร่?
เรื่องฟิล์มเซรามิกราคาเท่าไหร่นั้นมีความแตกต่างตามคุณภาพและยี่ห้อ โดยทั่วไปมีเรทราคาอยู่ประมาณนี้
- ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ เกรดมาตรฐาน: 6,000 – 10,000 บาท
- ฟิล์มเซรามิก เกรดกลาง: 10,000 – 18,000 บาท
- ฟิล์มเซรามิก เกรดพรีเมียม: 18,000 – 35,000 บาท
ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ความเข้มของฟิล์ม และโปรโมชั่นของศูนย์ติดตั้ง ดังนั้น ก่อนติดตั้งควรสอบถามราคาและเปรียบเทียบหลายร้านเพื่อความคุ้มค่า
เลือกฟิล์มเซรามิกยังไง ให้เหมาะกับรถคุณ?
การเลือกฟิล์มเซรามิกไม่ใช่แค่ดูราคา แต่ควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น
- ระดับความเข้ม
- 40% เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสว่าง มองชัดทั้งกลางวันและกลางคืน
- 60% กำลังพอดี กันร้อนดี และยังขับขี่สบายตา
- 80% สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง แต่กลางคืนอาจมืดเกินไปสำหรับบางคน
อาจจะลองสำรวจความชอของตัวเองก่อนว่าเน้นการใช้งานแบบไหนเป็นหลัก
- คุณสมบัติการกันร้อน (TSER)
ค่า TSER ยิ่งสูง ยิ่งกันร้อนได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อนจัดแบบประเทศไทย - การรับประกันสินค้า
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ที่ดีควรมีการรับประกันยาวนาน 7–10 ปี แต่บางยี่ห้อก็รับประกันถึง 18 ปี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ - ความคุ้มค่ากับราคา
บางครั้งการเพิ่มงบเล็กน้อยเพื่อเลือกฟิล์มเซรามิกเกรดพรีเมียม อาจช่วยยืดอายุการใช้งานและมอบความสบายมากขึ้นในระยะยาว

ฟิล์มเซรามิก VS ฟิล์มทั่วไป ต่างกันยังไง?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมฟิล์มเซรามิกราคาถึงแพงกว่าฟิล์มทั่วไป มาดูความต่างกัน ดัง 5 ข้อนี้
- ฟิล์มทั่วไป กันร้อนได้แค่ระดับปานกลาง ในขณะที่ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ กันความร้อนได้สูงมาก
- ฟิล์มทั่วไป กัน UV ได้เพียง 70–90% แต่ฟิล์มเซรามิกกันได้เกือบ 100%
- ฟิล์มทั่วไป อาจสะท้อนแสงมาก ทำให้แสบตา แต่ฟิล์มเซรามิกมองชัดเจนกว่า
- อายุการใช้งานของฟิล์มทั่วไปคือ 3–5 ปี แต่ฟิล์มเซรามิกอยู่ได้นาน 7–18 ปี
- ฟิล์มทั่วไปแบบโลหะอาจรบกวนสัญญาณดิจิทัล แต่ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ ไม่รบกวนสัญญาณใด ๆ
ฟิล์มเซรามิกเหมาะกับรถยนต์แบบไหนบ้าง?
สำหรับบางคนที่กำลังลังเลว่าควรลงทุนติดตั้งฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์แทนการใช้ฟิล์มทั่วไปไหม คำตอบคือเกือบทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากฟิล์มประเภทนี้ แต่กลุ่มที่จะเห็นความคุ้มค่าได้ชัดเจนนั่นก็คือ
- ผู้ที่ขับรถในเมืองทุกวัน
การจอดรถกลางแดดแรง ๆ ทำให้ห้องโดยสารร้อนจัด การใช้ฟิล์มเซรามิกจะช่วยลดความร้อนลงได้มาก ประหยัดการใช้แอร์ และทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก - ผู้ที่เดินทางไกลบ่อย ๆ
สำหรับคนที่ต้องขับรถทางไกลเป็นประจำ การที่ฟิล์มช่วยกันรังสี UV ได้เกือบ 100% จะช่วยปกป้องผิวและดวงตา ลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ - ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
แสงแดดและรังสี UV เป็นอันตรายต่อผิวที่บอบบาง การติดฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์จะช่วยสร้างความปลอดภัยและสบายให้ผู้โดยสารมากขึ้น - ผู้ที่ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
เพราะฟิล์มเซรามิกมีคุณสมบัติ “มืดนอก สว่างใน” ทำให้คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ง่าย เพิ่มความเป็นส่วนตัวและป้องกันการถูกสอดส่องจากมิจฉาชีพ
สรุป
ฟิล์มเซรามิกคือฟิล์มกรองแสงรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงาม ความปลอดภัย และการใช้งานในระยะยาว หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกฟิล์มเซรามิกยังไง สิ่งที่ควรคำนึงคือความเข้ม ความสามารถในการกันร้อน การรับประกัน และราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณไม่ว่าคุณจะเลือกฟิล์มเซรามิกแบบไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือการติดตั้งกับร้านที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดและคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป และหากคุณกำลังมองหาฟิล์มเซรามิกคุณภาพสูง Jack Auto Car ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำฟิล์มติดรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณที่สุด! Blueprint, Hi-Kool CERAMIC หรือ 3M รุ่นTop ULTRA CLEAR C ทางร้านพร้อมให้บริการ ทักเลย! Jack Auto Car พร้อมบริการ!
FAQ
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ทำให้ทัศนวิสัยตอนกลางคืนแย่ลงไหม?
- ไม่ หากเลือกความเข้มที่เหมาะสม (40–60%) จะยังมองเห็นชัดเจนและขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน
ฟิล์มดำกับฟิล์มเซรามิกแตกต่างกันอย่างไร?
- ฟิล์มดำธรรมดา มาจากเนื้อฟิล์มโพลีเอสเตอร์ที่นำมาย้อมสีดำ ซึ่งจะเป็น ฟิล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพต่ำ ไม่ได้มีการเคลือบหรือฝังสารกันความร้อนเข้าไป มืดนอกมืดใน ทำได้แค่ลดแสงส่องผ่านจากห้องโดยสาร แต่ฟิล์มเซรามิกมีความทนทานกว่า และดำนอก สว่างในแล้ว อณูนาโนเซรามิคในเนื้อฟิล์ม ceramic ยังสามารถช่วยกันร้อนได้กว่า 99 99%
การดูแลรักษาฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ให้ใช้งานได้นานทำอย่างไร?
- งดการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น น้ำยาล้างกระจกที่มีแอมโมเนีย เพราะอาจทำให้เนื้อฟิล์มเสื่อมสภาพ ควรใช้น้ำสะอาดหรือสเปรย์ที่ออกแบบมาสำหรับทำความสะอาดฟิล์มโดยเฉพาะ
- ใช้ผ้านุ่มหรือไมโครไฟเบอร์เช็ด การใช้ผ้าที่หยาบเกินไปอาจทำให้ฟิล์มเป็นรอย ควรเลือกผ้านุ่ม ๆ เพื่อรักษาความใสของฟิล์มให้นานที่สุด
- หลีกเลี่ยงการติดของแข็งใกล้กระจก เช่น การแขวนอุปกรณ์ที่อาจกระแทกกระจกด้านใน เพราะอาจทำให้ฟิล์มเป็นรอยหรือหลุดลอกได้
- ตรวจสอบฟิล์มเป็นประจำ เช่น ทุก 1–2 ปี ควรสังเกตว่าฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ยังสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หากเริ่มมีฟองอากาศ ซีด หรือแตกร้าว ควรเข้ารับการตรวจเช็กกับร้านที่ติดตั้ง
ฟิล์มเซรามิกเหมาะกับรถ EV ไหม?
- สามารถใช้ฟิล์มทั่วไปได้ แต่รถ EV เป็นรถที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่ารถยนต์โดยทั่วไป ยิ่งต้องระวังในส่วนนี้เป็นพิเศษ เลยแนะนำให้ติดเป็นฟิล์มเซรามิกดีกว่าเพื่อป้องกันความร้อนที่จะสาดแสงแดดเข้ามาทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายใน
จะรู้ได้ไงว่าฟิล์มที่ใช้นั้นไม่ใช่ฟิล์มเซรามิก?
- ไม่สามารถกันความร้อนได้
- มืดทั้งข้างและนอกและข้างในรถ
- ความทนทานน้อยกว่า 3 ปี






